AIA Multi-Pay CI Plus ประกันโรคร้ายแรง เจอ จ่าย หลายจบ

AIA Multi-Pay CI Plus

โรคร้าย เจอ จ่าย...หลายจบ

นิยามใหม่ของประกันโรคร้ายแรง ที่ไม่ได้คุ้มครองแค่ "ครั้งแรก" แต่ดูแลคุณ "ตลอดเส้นทาง"

ในยุคที่การแพทย์ก้าวไกล ทำให้เรามีโอกาสรอดชีวิตจากโรคร้ายแรงสูงขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายทางการเงินระยะยาว เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ด้วยแผนความคุ้มครองที่จ่ายซ้ำได้ ดูแลต่อเนื่อง และยกเว้นเบี้ย เพื่อให้คุณและครอบครัวก้าวต่อไปได้อย่างไร้กังวล

เมื่อ "รอดชีวิต" จากโรคร้าย คือจุดเริ่มต้นของ "วิกฤตการเงิน" รอบใหม่

ผมจะพบคำถามจากลูกค้าเสมอว่า "มีประกันสุขภาพกับประกันโรคร้ายแรงแบบ 'เจอ-จ่าย-จบ' อยู่แล้ว...มันยังไม่พออีกเหรอ?"

เป็นคำถามที่ดีมากครับ และคำตอบของผมในวันนี้อาจจะแตกต่างจากเมื่อ 10 ปีก่อนโดยสิ้นเชิง

ในอดีต การตรวจพบโรคร้ายแรงมักจะหมายถึงจุดเปลี่ยนที่น่าเศร้าของชีวิต แต่ปัจจุบัน ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่น่าทึ่ง ทำให้คนไข้จำนวนมากสามารถ "รอดชีวิต" และกลับมาใช้ชีวิตเกือบปกติได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง

แต่...คุณเคยนึกถึงภาพต่อจากนั้นไหมครับ?

การรอดชีวิตครั้งแรก อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ครั้งใหม่ที่ยาวนานและท้าทายทางการเงินยิ่งกว่าเดิม

ความเสี่ยงที่โรคจะกลับมาเป็นซ้ำ (Relapse)
นี่คือความจริงที่เจ็บปวด โดยเฉพาะ 3 โรคร้ายแรงหลักของคนไทยอย่าง มะเร็ง, โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้ แล้วถ้ามันเกิดขึ้นจริง ประกันแบบ "เจอ-จ่าย-จบ" ที่เคยเคลมไปแล้ว จะไม่สามารถช่วยอะไรเราได้อีก
การเจ็บป่วยด้วยโรคใหม่
ร่างกายที่ผ่านการต่อสู้กับโรคร้ายมาอย่างหนัก อาจจะอ่อนแอลงและเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงโรคอื่นตามมา
ภาระการดูแลระยะยาว (Long-term Care)
บางครั้งผลจากการเจ็บป่วยรุนแรง เช่น การบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือโรคพาร์กินสัน อาจทำให้เราไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เหมือนเดิม และต้องการการดูแลต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้สูงมากและเป็นภาระหนักอึ้งของครอบครัว
การสูญเสียรายได้ถาวร
แม้จะรักษาหาย แต่ร่างกายอาจจะไม่แข็งแรงพอให้กลับไปทำงานหนักเหมือนเดิมได้ ทำให้รายได้ของครอบครัวลดลงอย่างถาวร

นี่คือ "โลกความจริง" ของการรักษาพยาบาลยุคใหม่ ที่ประกันโรคร้ายแรงแบบเดิมๆ อาจให้ความคุ้มครองไม่เพียงพออีกต่อไป และเป็นที่มาของ AIA Multi-Pay CI Plus ที่ถูกออกแบบมาเพื่อปิดทุกช่องว่างความเสี่ยงเหล่านี้โดยเฉพาะ

จุดเด่นของ AIA Multi-Pay CI Plus
เกราะป้องกันแห่งอนาคต

AIA Multi-Pay CI Plus คือการปฏิวัติวงการประกันโรคร้ายแรง ด้วยการรวม 2 สัญญาเพิ่มเติมเข้าไว้ด้วยกัน คือ AIA Multi-Pay CI (ตัวหลักด้านโรคร้าย) และ AIA Total Care (ตัวเสริมด้านการดูแล) เพื่อมอบความคุ้มครองที่ครอบคลุมและต่อเนื่องอย่างแท้จริง


ผลประโยชน์ความคุ้มครอง AIA Multi-Pay CI Plus ทั้งหมด

เรามาทำความเข้าใจแผนภาพผลประโยชน์ของ AIA Multi-Pay CI Plus กันแบบละเอียด เราจะค่อยๆ ดูไปทีละช่อง จากซ้ายไปขวานะครับ

ส่วนที่ 1: ความคุ้มครองหลักสำหรับโรคร้ายแรง

เริ่มต้นกันที่แถวบนสุดทางซ้ายมือกันก่อนเลยนะครับ

  • คุ้มครองโรคร้ายแรง "ระดับต้นถึงปานกลาง" (กล่องสีส้มอ่อน): ส่วนนี้เปรียบเสมือนเกราะด่านแรกครับ หากตรวจเจอโรคร้ายแรงในระยะเริ่มต้นถึงปานกลาง คุณจะได้รับเงินก้อน 40% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เพื่อใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลหรือดูแลตัวเองได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ป่วยหนักก่อน และที่สำคัญคือ คุณสามารถเคลมในส่วนนี้ได้ถึง 5 ครั้งเลยทีเดียว รวมผลประโยชน์สูงสุดถึง 200% ครับ

  • คุ้มครองโรคร้ายแรง "ระดับรุนแรง" (กล่องสีส้มเข้ม): ถัดมาคือส่วนของโรคร้ายแรงระดับรุนแรงครับ หากการเจ็บป่วยของคุณอยู่ในระดับนี้ คุณจะได้รับเงินก้อนใหญ่เต็มที่ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ซึ่งความพิเศษของแผนนี้คือ ให้คุณเคลมในส่วนของโรคร้ายแรงระดับรุนแรงต่างโรคกันได้สูงสุดถึง 6 ครั้ง รวมผลประโยชน์เป็น 600% ครับ

เมื่อรวมความคุ้มครองหลักทั้งสองส่วนนี้เข้าด้วยกัน (200% + 600%) เท่ากับว่าแค่สัญญาเพิ่มเติม AIA Multi-Pay CI ตัวเดียว ก็ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 800% แล้วครับ

ส่วนที่ 2: ผลประโยชน์ใหม่! ที่เข้ามาดูแลมากกว่าแค่การรักษา

ทีนี้เรามาดูผลประโยชน์ส่วนเพิ่มเติมที่น่าสนใจมากๆ กันต่อเลยครับ

  • ภาวะวิกฤตที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิต (MIB) (กล่องสีแดง): นี่คือผลประโยชน์ใหม่ที่เข้ามาช่วยในยามฉุกเฉินจริงๆ หากคุณต้องเข้ารับการรักษาในภาวะวิกฤตทางการแพทย์ที่กำหนด คุณจะได้รับเงินก้อนใหญ่อีก 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยทันที จ่ายให้ครั้งเดียวเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องในยามจำเป็นเร่งด่วนครับ

  • การดูแลต่อเนื่องจากโรคร้ายแรง (CCB) (กล่องสีชมพู): หลังจากเจ็บป่วยหนัก การฟื้นฟูร่างกายก็สำคัญไม่แพ้กัน ส่วนนี้จึงถูกออกแบบมาเพื่อดูแลคุณอย่างต่อเนื่อง โดยจะจ่ายผลประโยชน์เป็นรายเดือน เดือนละ 1.5% ของทุนประกัน ติดต่อกันนานถึง 60 เดือน (5 ปี) รวมแล้วเป็นเงินอีก 90% เพื่อให้คุณใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการพักฟื้นหรือดูแลตัวเองได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้ที่อาจขาดหายไป

ซึ่งผลประโยชน์ใหม่ทั้งสองส่วนนี้ (MIB และ CCB) จะอยู่ในสัญญาเพิ่มเติม AIA Total Care ที่เพิ่มเข้ามาในแผนนี้เรียบร้อยแล้วครับ

ส่วนที่ 3: จุดเด่นพิเศษและความคุ้มครองอื่นๆ ที่ทำให้คุณอุ่นใจยิ่งขึ้น

มาถึงส่วนสุดท้ายทางขวากันบ้างครับ ซึ่งเป็นไฮไลท์ที่ทำให้แผนนี้โดดเด่นจริงๆ

  • เป็นซ้ำ ก็เคลมได้ (Relapsed CI): นี่คือจุดที่แตกต่างอย่างชัดเจนครับ โดยปกติแล้วประกันโรคร้ายแรงทั่วไป เมื่อเคลมโรคใดโรคหนึ่งไปแล้ว จะไม่สามารถเคลมโรคเดิมซ้ำได้อีก แต่สำหรับแผนนี้ หากคุณเคยป่วยเป็นโรคร้ายแรงระดับรุนแรงบางโรคที่กำหนด เช่น โรคมะเร็ง แล้วรักษาจนหายดี แต่ต่อมาโชคร้ายกลับมาเป็นซ้ำอีกครั้ง คุณก็ยังสามารถเคลมรับผลประโยชน์ 100% ได้อีกครั้ง ถือเป็นความคุ้มครองที่มอบความอุ่นใจได้อย่างแท้จริง

  • กรณีเสียชีวิต: หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต ก็ยังได้รับความคุ้มครอง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย โดยจะหักลบด้วยผลประโยชน์ที่เคยจ่ายเคลมไปแล้ว (ถ้ามี) เพื่อส่งมอบเป็นมรดกให้กับคนข้างหลังต่อไป

  • ยกเว้นเบี้ยประกันภัย (แถบสีเหลืองด้านล่าง): และอีกหนึ่งความพิเศษคือ หากคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรงระดับรุนแรงเมื่อไหร่ คุณจะได้รับการ "ยกเว้นเบี้ยประกันภัย" ของสัญญาเพิ่มเติมนี้ทันที หมายความว่าคุณไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันต่อ แต่ยังคงได้รับความคุ้มครองทั้งหมดตามเงื่อนไขกรมธรรม์ต่อไปครับ

เมื่อนำผลประโยชน์ทั้งหมดมารวมกัน ตั้งแต่ความคุ้มครองหลัก 800% บวกกับผลประโยชน์เพิ่มเติมอีก 200% จึงทำให้แผนนี้มอบความคุ้มครองให้คุณได้สูงสุดถึง 1,000% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยเลยทีเดียวครับ เรียกได้ว่าเป็นการวางแผนที่ครอบคลุมและสร้างความมั่นคงทางการเงินเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างดีเยี่ยมเลยครับ

โรคร้ายแรงที่คุ้มครองภายใต้สัญญาเพิ่มเติม AIA MULTI-PAY CI

ครอบคลุมโรคร้ายแรงระดับรุนแรง (44 โรค/การรักษา) และ โรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง (18 โรค/การรักษา)

กลุ่ม 1: กลุ่มโรคมะเร็งและเนื้องอก

ระดับรุนแรง
  • โรคมะเร็งระยะลุกลาม
  • เนื้องอกในสมองชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง
ระดับต้นถึงระดับปานกลาง
  • โรคมะเร็งระยะไม่ลุกลาม
  • การผ่าตัดเนื้องอกต่อมใต้สมองออก

กลุ่ม 2: กลุ่มโรคหัวใจ ระบบการหายใจ และระบบการไหลเวียนโลหิต

ระดับรุนแรง
  • กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด
  • การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ
  • โรคกล้ามเนื้อหัวใจ
  • การผ่าตัดลิ้นหัวใจโดยวิธีการเปิดหัวใจ
  • โรคแรงดันในหลอดเลือดแดงปอดสูงแบบปฐมภูมิ
  • โรคหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรังขั้นรุนแรง / โรคปอดระยะสุดท้าย
  • โรคโลหิตจางจากไขกระดูกไม่สร้างเม็ดโลหิต
ระดับต้นถึงระดับปานกลาง
  • โรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่รักษาด้วยการสวนหลอดเลือดหัวใจ
  • การผ่าตัดลิ้นหัวใจ
  • การรักษาโรคลิ้นหัวใจด้วยการสวนหลอดเลือด
  • การรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ต้า โดยวิธีใส่สายสวนทางหลอดเลือด หรือภาวะการโป่งพองของหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ต้าที่ระดับอกหรือระดับท้อง
  • การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจในหลอดเลือดดำใหญ่

กลุ่ม 3: กลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง ระบบประสาท และกล้ามเนื้อ

ระดับรุนแรง
  • โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน
  • โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด
  • ภาวะโคม่า
  • โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์
  • สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส
  • โรคพาร์กินสัน
  • โรคของเซลล์ประสาทควบคุมการเคลื่อนไหว
  • อัมพาตของกล้ามเนื้อแขนหรือขา
  • โรคโปลิโอ
  • โรคกล้ามเนื้อเสื่อม
ระดับต้นถึงระดับปานกลาง
  • โรคหลอดเลือดสมองที่ต้องได้รับการผ่าตัดลอกหลอดเลือดแดงคาโรติด
  • โรคหลอดเลือดสมองที่ต้องได้รับการรักษาโดยวิธีใส่สายสวนเส้นเลือดแดงบริเวณคอ
  • โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่รักษาโดยใช้ขดลวดผ่านสายสวนทางหลอดเลือด
  • การผ่าตัดฝังท่อระบายในโพรงสมอง

กลุ่ม 4: กลุ่มโรคอวัยวะและระบบการทำงานที่สำคัญของร่างกาย

ระดับรุนแรง
  • ตับวาย
  • ไตวายเรื้อรัง
  • การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก
  • โรคไวรัสตับอักเสบขั้นรุนแรง
  • ภาวะข้ออักเสบรูมาตอยด์ชนิดรุนแรง
ระดับต้นถึงระดับปานกลาง
  • การผ่าตัดตับออกหนึ่งกลีบ
  • การผ่าตัดไตออกหนึ่งข้าง
  • การผ่าตัดปอดออกหนึ่งข้าง

กลุ่ม 5: กลุ่มโรคภาวะติดเชื้อ การบาดเจ็บร้ายแรง และภาวะทุพพลภาพ

ระดับรุนแรง
  • แผลไหม้ฉกรรจ์ (การเกิดแผลไหม้ระดับ 3)
  • การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง
  • การสูญเสียการดำรงชีอย่างอิสระ*
  • การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง*
    - ไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเองอย่างถาวร ตั้งแต่ 3 อย่างขึ้นไป ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 180 วัน หรือ
    - ไม่สามารถประกอบอาชีพใดๆ เพื่อรับค่าตอบแทนหรือกำไรได้ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 180 วัน หรือ
    - การสูญเสีย สายตา มือ หรือ เท้า ทั้ง 2 ข้าง หรือสูญเสียมือ 1 ข้างและเท้า 1 ข้าง หรือสูญเสียสายตา 1 ข้างและมือ 1 ข้าง หรือสูญเสียสายตา 1 ข้าง และเท้า 1 ข้าง
  • ตาบอด
  • การฉีกขาดของรากประสาทต้นแขน
  • การสูญเสียความสามารถในการพูด
  • โรคเนื้อเยื่อพังผืดอักเสบติดเชื้อและเป็นเนื้อตาย
  • โรคเท้าช้าง
ระดับต้นถึงระดับปานกลาง
  • แผลไหม้ชนิดรุนแรงน้อย (การเกิดแผลไหม้ระดับ 2)
  • การผ่าตัดเพื่อตัดขาใต้ข้อเข่าเนื่องมาจากอุบัติเหตุ
  • การสูญเสียแขนหรือขาหนึ่งข้าง หรือตาหนึ่งข้าง
  • โรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา

กลุ่ม 6: กลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง ระบบประสาท และกล้ามเนื้อ

  • คุ้มครองถึงก่อนวันที่ผู้เอาประกันภัยมีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์เท่านั้น
  • โรคไข้รูมาติกที่ทำให้หัวใจผิดปกติ
  • โรคคาวาซากิที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนของหัวใจ
  • โรคเบาหวานชนิดที่ 1
  • โรคน้ำในไขสันหลังซึ่งโพรงสมองซึ่งเกิดภายหลังและต้องใส่ท่อระบาย

ชวนทำความเข้าใจ ความคุ้มครองพิเศษ “ภาวะวิกฤต” (MIB)

หนึ่งในความคุ้มครองที่สำคัญ คือผลประโยชน์ “ภาวะวิกฤตที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิต” หรือ MIB ครับ ส่วนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อมอบเงินก้อนเพิ่มเติมให้เป็นขวัญและกำลังใจ ในยามที่คุณต้องเผชิญกับเหตุการณ์ทางการแพทย์ที่รุนแรงจริงๆ

หัวใจสำคัญคือ การเข้ารับการรักษาในห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU) อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 5 วัน ซึ่งเป็นผลมาจากหนึ่งใน 3 สถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปนี้ครับ

ที่ Baria+ เราเชื่อว่าการมีความคุ้มครอง MIB ติดไว้ จะช่วยสร้างความอุ่นใจและเป็นเบาะรองรับทางการเงินที่แข็งแกร่ง ช่วยให้คุณและครอบครัวสามารถก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดไปได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายครับ

ผลประโยชน์ "ดูแลต่อเนื่อง" (CCB) เกราะป้องกันทางการเงินในวันที่ชีวิตต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

หลังจากที่เราต้องเผชิญกับโรคร้ายแรง การฟื้นฟูร่างกายและปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่คืออีกหนึ่งความท้าทายที่สำคัญ ที่ Baria+ เราเข้าใจดีว่า "การดูแลต่อเนื่อง" คือหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้คุณก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างมั่นคง วันนี้เราจะมาเจาะลึกผลประโยชน์ "การดูแลต่อเนื่องจากโรคร้ายแรง" หรือ CCB ที่จะคอยเป็นเบาะรองรับทางการเงินให้คุณในระยะยาวครับ

ความคุ้มครอง "ดูแลต่อเนื่อง" (CCB) จะทำงานเมื่อไหร่?

ผลประโยชน์นี้จะเริ่มทำงานเมื่อคุณได้รับการวินิจฉัยเป็นครั้งแรกว่าเป็น 1 ใน 8 โรคร้ายแรงที่ส่งผลกระทบอย่างสูงต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งล้วนเป็นภาวะที่ต้องอาศัยการดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องเป็นพิเศษครับ ได้แก่:

1

โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์

2

โรคพาร์กินสัน

3

โรคของเซลล์ประสาทควบคุมการเคลื่อนไหว

4

โรคกล้ามเนื้อเสื่อม

5

ภาวะข้ออักเสบรูมาตอยด์ชนิดรุนแรง

6

การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง

7

การสูญเสียการดำรงชีพอย่างอิสระ

8

การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง

ทำไมความคุ้มครองนี้ถึงสำคัญ?

หัวใจของผลประโยชน์ CCB ไม่ใช่แค่การจ่ายเงินก้อนครั้งเดียวแล้วจบไป แต่คือ การมอบเงินช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเป็นรายเดือน เพื่อให้คุณนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลตัวเอง, ค่าจ้างผู้ดูแล, ค่าทำกายภาพบำบัด หรือเพื่อทดแทนรายได้ที่อาจขาดหายไป สิ่งนี้จะช่วยลดภาระทางการเงินของครอบครัว ทำให้คุณสามารถโฟกัสกับการฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างเต็มที่ และวางแผนชีวิตระยะยาวได้อย่างไร้กังวล

สรุปความคุ้มครอง AIA Multi-Pay CI Plus ทำงานอย่างไร

เพื่อให้เข้าใจง่ายที่สุด ผมขอแบ่งการทำงานของแผนนี้ออกเป็น 2 ส่วน ตามสัญญาเพิ่มเติม 2 ตัวที่ทำงานร่วมกันครับ

ส่วนที่ 1
"นักสู้มือหลัก"
ความคุ้มครองจาก AIA Multi-Pay CI
(ผลประโยชน์สูงสุด 800%)

สัญญาตัวนี้คือแกนหลักของความคุ้มครองโรคร้ายแรง ที่ให้มากกว่าแค่การจ่ายครั้งเดียว

  • เจอโรคระยะเริ่มต้น...ก็มีเงินใช้ก่อน: หากตรวจพบโรคร้ายแรงในระดับต้นถึงปานกลาง เช่น มะเร็งระยะไม่ลุกลาม, การสวนหลอดเลือดหัวใจ คุณจะได้รับเงินก้อน 40% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เพื่อใช้เป็นค่ารักษาตั้งแต่เนิ่นๆ โดยสามารถเคลมในกลุ่มโรคที่แตกต่างกันได้สูงสุดถึง 5 ครั้ง (รวม 200%)

  • เจอโรคระยะรุนแรง...รับเงินก้อนเต็ม 100%: หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรงระดับรุนแรง เช่น มะเร็งระยะลุกลาม, โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน, กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน คุณจะได้รับเงินก้อน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และที่สำคัญคือ บริษัทจะยกเว้นเบี้ยประกันของสัญญาเพิ่มเติม AIA Multi-Pay CI ให้ทันที แต่ความคุ้มครองยังคงอยู่ เพื่อให้คุณพร้อมสู้กับโรคอื่นๆ ที่อาจตามมาในอนาคต โดยสามารถเคลมโรคร้ายแรงระดับรุนแรงในกลุ่มโรคที่ต่างกันได้สูงสุดถึง 6 ครั้ง (รวม 600%)

  • ไฮไลท์พิเศษสุด: เป็นซ้ำ...จ่ายคูณสอง (Relapsed CI) นี่คือสิ่งที่ทำให้แผนนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิง หากคุณเคยเคลม 3 โรคร้ายแรงระดับรุนแรงนี้ไปแล้ว และเกิดโชคร้ายที่โรคเดิมกลับมาเป็นซ้ำอีก...

    • โรคมะเร็งระยะลุกลาม: หากกลับมาเป็นซ้ำหลัง 2 ปี (ภายใต้เงื่อนไข) รับเพิ่มอีก 100%
    • กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันฯ: หากกลับมาเป็นซ้ำหลัง 1 ปี รับเพิ่มอีก 100%
    • โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน: หากกลับมาเป็นซ้ำหลัง 1 ปี รับเพิ่มอีก 100% นี่คือการสร้างความมั่นใจว่า ถ้าต้องสู้รอบสอง คุณก็ยังมีกระสุนเต็มแม็กเหมือนเดิม!

ส่วนที่ 2
"ผู้ดูแลส่วนตัว"
ความคุ้มครองจาก AIA Total Care
(ผลประโยชน์สูงสุด 200%)

  • หากคุณได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์เป็นครั้งแรกว่าเป็น 1 ใน 44 โรคร้ายแรงระดับรุนแรงที่ระบุในกรมธรรม์ หรือ
  • หากคุณเสียชีวิตไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม (ภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์) หรือ
  • หากคุณมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา คืออายุ 99 ปี

บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ให้กับคุณหรือผู้รับผลประโยชน์

แต่หากคุณเคยได้รับผลประโยชน์ 20% จากกรณีโรคร้ายแรงระดับต้นถึงปานกลางไปแล้ว เงินผลประโยชน์ 100% นี้จะถูกหักลบด้วยส่วน 20% ที่จ่ายไปก่อนหน้า ทำให้คุณได้รับส่วนที่เหลือคือ 80% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

เมื่อบริษัทจ่ายผลประโยชน์ตามข้อใดข้อหนึ่งในกลุ่มนี้แล้ว กรมธรรม์จะถือว่าสิ้นสุดผลบังคับลงทันที

ตัวอย่างการจ่ายผลประโยชน์ของ AIA Multi -Pay CI Plus

ลองดูเคสของคุณเล็ก เพื่อให้เห็นภาพการทำงานร่วมกันของผลประโยชน์ทั้งหมด
  • อายุ 40 ปีคุณเล็ก

    เจ้าของธุรกิจ ทำประกัน AIA Multi-Pay CI Plus ทุนประกัน 3 ล้านบาท
  • อายุ 62 ปีได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน

    - รับเงินก้อน 3,000,000 บาท จาก AIA Multi-Pay CI
    - AIA ยกเว้นเบี้ยประกัน ของสัญญาเพิ่มเติม AIA Multi-Pay CI ให้ทันที
  • อายุ 65 ปีโชคร้าย โรคหลอดเลือดสมองกลับมาเป็นซ้ำ อีกครั้งที่สมองคนละซีก

    รับผลประโยชน์ Relapsed CI อีก 3,000,000 บาท
  • อายุ 70 ปีได้รับการวินิจฉัยเพิ่มว่าเป็น โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ ซึ่งเป็น 1 ใน 8 ภาวะที่ได้รับความคุ้มครอง CCB

    - รับเงินก้อนครั้งเดียว 300,000 บาท (10% ของ 3 ล้าน) จาก AIA Total Care
    - รับเงินรายเดือน เดือนละ 45,000 บาท (1.5% ของ 3 ล้าน) ต่อเนื่อง 60 เดือน
    - AIA ยกเว้นเบี้ยประกัน ของสัญญาเพิ่มเติม AIA Total Care ให้ทันที

รวมผลประโยชน์ที่คุณเล็กได้รับทั้งหมดคือ 3,000,000 + 3,000,000 + 300,000 + (45,000 x 60) = 9,000,000 บาท นี่คือพลังของความคุ้มครองที่ดูแล "ตลอดเส้นทาง" อย่างแท้จริง

ตารางเปรียบเทียบ ประกันโรคร้ายแรงยุคเก่า vs. AIA Multi-Pay CI Plus

คุณสมบัติ ประกันโรคร้ายแรงแบบดั้งเดิม ("เจอ จ่าย จบ") AIA Multi-Pay CI Plus
การจ่ายเคลม จ่ายเมื่อเจอโรคร้ายแรงระดับรุนแรง ครั้งเดียว แล้วสัญญาจบ จ่ายได้ หลายครั้ง ทั้งระยะต้น, ระยะรุนแรง, และ จ่ายซ้ำ หากโรคเดิมกลับมา
ขอบเขตความคุ้มครอง เน้นที่ตัว "โรคร้ายแรง" เป็นหลัก ครอบคลุมถึง "ภาวะวิกฤต" (ผ่าตัดใหญ่/นอน ICU) และ "การดูแลต่อเนื่องระยะยาว" (จ่ายรายเดือน 5 ปี)
สถานะสัญญาหลังเคลม สัญญาสิ้นสุดลงทันที สัญญายังคงอยู่ เพื่อให้ความคุ้มครองโรคอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ภาระเบี้ยประกันหลังเคลม ไม่มี (เพราะสัญญาจบ) ได้รับการยกเว้นเบี้ยประกันภัย แต่ยังคงได้รับความคุ้มครองต่อไป
ความอุ่นใจ อุ่นใจได้ครั้งเดียว อุ่นใจต่อเนื่อง พร้อมรับมือกับความท้าทายทางการเงินในระยะยาว

จากตารางเปรียบเทียบจะเห็นว่าประกัน AIA Multi-Pay CI Plus มีความยืดหยุ่นและให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมกว่าประกันโรคร้ายแรงแบบดั้งเดิมอย่างชัดเจน โดยสามารถจ่ายเคลมได้หลายครั้งสำหรับโรคร้ายแรงหลายระยะ ในขณะที่แบบดั้งเดิมจ่ายครั้งเดียวจบ อีกทั้งยังขยายขอบเขตความคุ้มครองไปถึงภาวะวิกฤตและการดูแลต่อเนื่องระยะยาว ที่สำคัญคือสัญญายังคงมีผลบังคับใช้และได้รับความคุ้มครองต่อไปแม้จะมีการจ่ายเคลมไปแล้วก็ตาม ทำให้ผู้เอาประกันมีความอุ่นใจและมั่นคงทางการเงินในระยะยาวมากกว่า

คำถามที่พบบ่อย

1AIA Multi-Pay CI Plus แตกต่างจากประกันโรคร้ายแรงทั่วไปที่เคลมได้หลายครั้งอย่างไร?
แตกต่างที่ "การเคลมซ้ำโรคเดิม" ครับ ประกันโรคร้ายแรงแบบเคลมหลายครั้งส่วนใหญ่ จะจ่ายสำหรับ "โรคใหม่" ในกลุ่มโรคที่แตกต่างกัน แต่ AIA Multi-Pay CI Plus มีจุดเด่นคือผลประโยชน์ Relapsed CI ที่สามารถจ่ายซ้ำสำหรับ 3 โรคร้ายแรงหลัก (มะเร็ง, สโตรก, หัวใจ) หากมัน "กลับมาเป็นซ้ำ" อีกครั้ง ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้จริงในทางการแพทย์
2ผลประโยชน์ภาวะวิกฤต (MIB) และ การดูแลต่อเนื่อง (CCB) มาจากไหน?
ผลประโยชน์สองส่วนนี้มาจากสัญญาเพิ่มเติม AIA Total Care ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของแผน AIA Multi-Pay CI Plus ทำหน้าที่เป็น "ผู้ดูแล" ที่ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินในสถานการณ์ที่ต้องเข้ารับการรักษาอย่างหนัก หรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษในระยะยาวครับ
3หากเคลมโรคร้ายแรงระดับต้นไปแล้ว 40% แล้วต่อมาเสียชีวิต จะได้รับเงินเท่าไหร่?
ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย หักด้วยผลประโยชน์ที่เคยจ่ายไปแล้ว (ถ้ามี) ดังนั้นในกรณีนี้ หากทุนประกัน 1 ล้านบาท และเคยรับไปแล้ว 400,000 บาท เมื่อเสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินอีก 600,000 บาท
4ถ้าต้องการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี จะคำนวณอย่างไร?
เบี้ยประกันภัยสุขภาพ (ถ้ามี) เฉพาะส่วนที่เข้าเงื่อนไขสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินจะสามารถช่วยคุณแยกรายละเอียดของเบี้ยแต่ละส่วนเพื่อให้คุณนำไปใช้สิทธิ์ได้อย่างถูกต้องครับ

เลือกเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งและทันสมัยที่สุด สำหรับโลกที่เปลี่ยนไป

โลกของการรักษาพยาบาลเปลี่ยนไปแล้ว การ "รอดชีวิต" จากโรคร้ายแรงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูงขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายทางการเงินที่ซับซ้อนและยาวนานขึ้นเช่นกัน

AIA Multi-Pay CI Plus ไม่ใช่แค่ประกันโรคร้ายแรง แต่เป็น "ระบบนิเวศแห่งความคุ้มครอง" ที่ถูกออกแบบมาเพื่อโลกยุคใหม่ มันคือหลักประกันที่บอกกับคุณและครอบครัวว่า...

"ไม่ว่าคุณจะต้องสู้กับโรคร้ายกี่ครั้ง... ไม่ว่าคุณจะต้องพักฟื้นนานแค่ไหน... คุณจะมีกองทัพทางการเงินที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุนอยู่เสมอ"

การเลือกแผนความคุ้มครองที่ครอบคลุมและคิดมาเพื่ออนาคต คือการลงทุนใน "ความสบายใจ" ที่ประเมินค่าไม่ได้ และคือของขวัญที่ดีที่สุดที่คุณจะมอบให้ตัวเองและคนที่คุณรักได้

มาออกแบบแผนความคุ้มครองที่พร้อมดูแลคุณ "ตลอดเส้นทาง" กันตั้งแต่วันนี้