รีวิวประกันโรคร้ายแรง AIA ฉบับเจาะลึก

“โรคร้ายแรง” ไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพ แต่มันคือ “วิกฤตการเงิน” ที่เราป้องกันได้

ผมในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) ที่ได้พูดคุยและวางแผนการเงินให้กับคนทำงานหลากหลายอาชีพมาหลายปี สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นเป็นเหมือน "จุดบอด" ในแผนการเงินของหลายๆ คน คือการมองข้ามความเสี่ยงเรื่อง "โรคร้ายแรง" ครับ

เรามักจะคิดว่า “ประกันสุขภาพ” ที่มีอยู่ก็น่าจะพอแล้ว หรือ “เรายังแข็งแรงดี ไม่เป็นไรหรอก” แต่ในความเป็นจริง โรคร้ายแรงเป็นเหมือนพายุที่ไม่เคยพยากรณ์ล่วงหน้า มันไม่ได้โจมตีแค่สุขภาพ แต่ยังถล่มแผนการเงินที่เราสร้างมาทั้งชีวิตให้พังลงได้ในพริบตา

ผมอยากจะชวนทุกคนมาทำความเข้าใจว่าทำไม ประกันโรคร้ายแรง ถึงเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญสำหรับการวางแผนการเงิน และเราจะเลือกเครื่องมือจาก AIA ที่เหมาะกับเราได้อย่างไร จะอธิบายแบบง่ายๆ ไม่ต้องมีพื้นฐานก็เข้าใจได้ครับ

เปิดมุมมองใหม่ “โรคร้ายแรง” น่ากลัวกว่าค่ารักษาพยาบาลที่คิด

เวลาพูดถึงโรคร้ายแรงอย่าง มะเร็ง, โรคหัวใจ, หรือโรคหลอดเลือดสมอง ภาพแรกที่ขึ้นมาในหัวของทุกคนคือ "ค่ารักษาพยาบาล" ใช่ไหมครับ? ซึ่งก็ถูกครับ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้สูงมากจริงๆ แต่ในฐานะ FA ผมอยากจะชวนมองให้ลึกกว่านั้น เพราะค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็น (Hidden Costs) นี่แหละครับ คือตัวการที่ทำให้หลายครอบครัวล้มทั้งยืน

ลองนึกภาพตามนะครับ ถ้าวันหนึ่งเราถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง...


เห็นไหมครับว่ามันไม่ใช่แค่ "ค่าหมอ-ค่ายา" แต่เป็นวิกฤตทางการเงินที่รอบด้านจริงๆ และนี่คือเหตุผลที่ ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย เพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ

ความแตกต่างที่สำคัญของ ประกันสุขภาพ vs. ประกันโรคร้ายแรง

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ผมขอเปรียบเทียบง่ายๆ แบบนี้ครับ

ประกันสุขภาพ

Health Insurance

เหมือน "บัตรเครดิต" สำหรับโรงพยาบาลครับ เมื่อเราป่วยและแอดมิต ประกันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง (ในวงเงินที่กำหนด) ให้กับโรงพยาบาลโดยตรง หน้าที่ของมันคือจ่าย "ค่ารักษา"

ประกันโรคร้ายแรง

Critical Illness Insurance (CI)

เหมือน "เงินสดก้อนใหญ่" ที่โอนเข้าบัญชีของเราโดยตรง เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเราเป็นโรคร้ายแรงตามที่ระบุในกรมธรรม์ หน้าที่ของมันคือมอบ "เงินก้อน" ให้เราไปบริหารจัดการชีวิตในช่วงวิกฤต

 เงินก้อนนี้แหละครับ คือ "กระสุน" ที่จะช่วยให้เราสู้กับค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็นทั้งหมดที่ผมเล่าไปข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้เป็นค่าครองชีพทดแทนรายได้ที่หายไป, ค่าจ้างคนดูแล, ค่าเดินทาง, หรือแม้กระทั่งการนำไปจ่ายค่ารักษาส่วนเกินที่ประกันสุขภาพไม่ครอบคลุม นี่คือความยืดหยุ่นและความสำคัญของประกันโรคร้ายแรง ที่เป็นเหมือน "ตาข่ายนิรภัยทางการเงิน" ของเรา

เปรียบเทียบประกันโรคร้ายแรง AIA แบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ?

"แล้วจะเลือกแบบไหนดี?" วันนี้ผมจะหยิบยก 3 ผลิตภัณฑ์ประกันโรคร้ายแรงยอดนิยมจาก AIA มาเปรียบเทียบให้ดูกันชัดๆ ว่าแต่ละตัวมีจุดเด่นอย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง

*คำนวนจาก เพศ หญิง อายุ 21 ด้วยความคุ้มครอง 1 ล้านบาท

คำถามที่พบบ่อย จากใจคนอยากทำประกันโรคร้ายแรง

รวบรวมคำถามยอดฮิตที่มักจะได้ยินอยู่เสมอๆ มาตอบให้หายข้องใจ
1มีประกันกลุ่มของบริษัทอยู่แล้ว จำเป็นต้องทำประกันโรคร้ายแรงส่วนตัวเพิ่มไหม?
คำตอบสั้นๆ คือ "จำเป็นอย่างยิ่งครับ" เพราะประกันกลุ่มมีข้อจำกัดสำคัญคือ
1) วงเงินอาจไม่สูงพอสำหรับค่าใช้จ่ายโรคร้ายแรง
2) ความคุ้มครองจะสิ้นสุดลงทันทีเมื่อเราลาออกหรือเกษียณ ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ความเสี่ยงสูงขึ้น การมีประกันส่วนตัวก็เหมือนการสร้าง "ตาข่ายนิรภัย" ของเราเอง ที่จะติดตามเราไปตลอด ไม่ว่าเราจะย้ายงานหรือหยุดทำงานแล้วก็ตาม
2ต้องตรวจสุขภาพก่อนทำประกันไหม?
โดยทั่วไป สำหรับทุนประกันที่ไม่สูงมากและผู้ขอเอาประกันมีสุขภาพแข็งแรง อาจจะไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่ต้องแถลงข้อมูลสุขภาพตามความเป็นจริงในใบคำขอครับ แต่หากมีประวัติสุขภาพบางอย่าง หรือขอทุนประกันสูง บริษัทอาจจะขอให้ตรวจสุขภาพเพิ่มเติม ซึ่งเป็นมาตรฐานปกติครับ การแถลงความจริงคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเราเองครับ
3"ระยะเวลารอคอย" (Waiting Period) คืออะไร?
คือระยะเวลาที่กรมธรรม์ยังไม่คุ้มครองโรคร้ายแรงหลังจากที่อนุมัติแล้ว โดยทั่วไปสำหรับประกันโรคร้ายแรงจะอยู่ที่ 90 วันครับ หมายความว่า หากตรวจเจอโรคร้ายแรงในช่วง 90 วันแรกนับจากวันอนุมัติ ประกันอาจจะยังไม่จ่ายเคลม ทั้งนี้เพื่อป้องกันกรณีที่ลูกค้ารู้ตัวว่ากำลังจะป่วยแล้วรีบมาทำประกันครับ ดังนั้น การวางแผนทำประกันตั้งแต่ตอนที่ยังแข็งแรงจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
4เบี้ยประกันที่จ่ายไป ลดหย่อนภาษีได้ไหม?
ได้ครับ สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพ (ซึ่งรวมถึงประกันโรคร้ายแรง) สามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท ถือเป็นอีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ที่ดีครับ
5เลือกไม่ถูกจริงๆ ระหว่าง 3 แบบนี้ ควรทำอย่างไรดี?
ไม่ต้องกังวลครับ นั่นคือหน้าที่ของที่ปรึกษาทางการเงินอย่างผม การเลือกแผนที่ดีที่สุดไม่ใช่การเลือกแผนที่แพงที่สุด แต่คือแผนที่ "เหมาะสม" กับเป้าหมาย, งบประมาณ, และความกังวลส่วนตัวของคุณมากที่สุด ผมแนะนำให้เราได้ลองพูดคุยกันครับ ผมจะช่วยคุณวิเคราะห์ความต้องการในแต่ละด้าน เพื่อออกแบบแผนที่พอดีกับตัวคุณจริงๆ

ก้าวต่อไปของคุณคืออะไร?

การอ่านมาถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่าคุณน่าจะเข้าใจแล้วว่า ประกันโรคร้ายแรง AIA ไม่ใช่แค่ "สินค้า" แต่มันคือ "เครื่องมือในการวางแผนการเงิน" ที่สำคัญอย่างยิ่ง มันคือการ "โอนย้ายความเสี่ยง" ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ (ความเสี่ยงที่จะป่วย) ไปให้กับบริษัทประกันเป็นผู้ดูแลแทน แลกกับค่าใช้จ่ายที่ควบคุมได้ (เบี้ยประกัน)

การตัดสินใจวันนี้ ไม่ใช่การตัดสินใจด้วยความกลัว แต่คือการตัดสินใจด้วย "ความรักและความรับผิดชอบ" ต่อตัวเองและคนข้างหลัง

หากคุณอ่านแล้วรู้สึกว่าอยากจะเริ่มต้นวางแผน หรือยังมีคำถามที่อยากได้คำตอบที่เฉพาะเจาะจงสำหรับคุณมากขึ้น สามารถทักเข้ามาพูดคุยกันได้เลยครับ ผมยินดีให้คำปรึกษา เพราะผมอยากเห็นทุกคนมีแผนการเงินที่แข็งแกร่งและมั่นคง สามารถก้าวผ่านทุกวิกฤตไปได้อย่างสบายใจ

ต้องการคำแนะนำหรือวางแผนประกันโรคร้ายแรงเพิ่มเติม

หากยังไม่แน่ใจว่าแผนไหนเหมาะกับคุณที่สุด?

มาค้นหาแผนประกันที่ลงตัวกับคุณกัน
Investment Consultant: 134277
ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต.
OIC license: 6701023590
ตัวแทนยูนิตส์ลิ้งค์ รับรองจาก คปภ.
FA license: I-2188
Financial Advisor FINNOMENA
FA Prime license: 687824
Financial Advisor จาก AIA